เพิ่มคำอธิบายภาพ ผู้วาดภาพประกอบ : กฤษณะ สุริยกานต์ |
กาเมสุมิจฉาจาร
การล่วงละเมิดหญิงอยู่ในความปกครองของผู้อื่น ย่อมได้รับความกลัวอันเกิดจากไฟและสายฟ้า โรคเรื้อน โรคฝี โรคกลาก โรคไอ โรคหืด โรคลมบ้าหมู โรคลามก มีอวัยวะผิดปกติ หญิงย่อมไม่ละจากความเป็นหญิง ชายกลายเป็นหญิงเป็นกะเทย เป็นคนสองเพศได้
ที่เคยบอกว่าศีล ๕ ที่ถูกลืมไปนั้น ก็คือศีลข้อนี้นั้นเอง ความจริงไม่ได้ลืมแต่รู้ไม่หมด ศีลที่คนส่วนใหญ่ได้ละเลยจนเกิดปัญหา สังคมวุ่นวาย ในเมื่อศีลข้อนี้ก็เป็นศีลข้อใหญ่ ซึ่งมีปัญหาต่างๆที่เกี่ยวข้องมากมาย ซึ่งอาจจะไม่ตรงนัก แต่ก็เกี่ยวเนื่องกันและมีประโยชน์
ผู้คนส่วนใหญ่จะรู้แต่ว่า การล่วงละเมิดภรรยาผู้อื่นทำให้ผิดศีล ส่วนการล่วงละเมิดบุตรผู้อื่นผิดหรือไม่ผิดอย่างไรไม่รู้ พระส่วนใหญ่ในเวลาก็ไม่ค่อยได้สอนว่าผิดศีลข้อกาเม ฯคือล่วงละเมิดบุตรและภรรยาผู้อื่นหรือล่วงละเมิดภรรยาผู้อื่น คำว่าบุตรอาจจะหายไปบ้าง และส่วนใหญ่ก็ไม่เข้าใจเรื่องบุตรผู้อื่นด้วยว่าเป็นยังไง
หญิงที่อยู่ในปกครองของผู้อื่นที่มิใช่แต่ภรรยาของตน และโดยความหมายนั้นหญิงที่อยู่ในความดูแลปกครองไม่ใช่แต่พ่อแม่เท่านั้น รวมทั้งญาติพี่น้อง หรือผู้ใหญ่ที่ให้ความอุปการะและมิใช่ว่าหมายถึงหญิงที่ไม่บรรลุนิติภาวะด้วย แม้หญิงนั้นจะมีอายุเกิน ๒๐ ปี แล้วจะอายุเท่าไหร่ก็แล้วแต่ถ้ายังอยู่กับครอบครัว ชายใดล่วงละเมิดหญิงนั้นก็ได้ชื่อว่าทำผิดศีลข้อกาเมนี้
สังคมคนส่วนใหญ่ไม่รู้ข้อเท็จจริงนี้ ปัญหาจึงเกิดขึ้นมากมาย เมื่อมีผู้รู้ความจริงนี้แล้วก็ช่วยกันเผยแพร่กันออกไป เพื่อปัญหาของสังคมจะลดลงได้บ้าง
พ่อแม่ต้องรู้จักสละเวลาเพื่ออบรมลูกๆบ้าง โดยเฉพาะการดูทีวี ทุกคนอาจจะอยู่ร่วมกัน พ่อแม่ก็ต้องรู้จังหวะเวลา เมื่อมีเหตุที่ไม่ถูกต้องก็ควรจะแนะนำให้ลูกๆได้เข้าใจในสิ่งนั้น ซึ่งพ่อแม่เองก็ต้องมีความรู้เรื่องหลักธรรมที่ถูกต้องด้วย
มีละครอยู่หลายเรื่องที่พระเอกได้ปลุกปล้ำและข่มขืนนางเอก จะด้วยความแค้นหรือความโกรธ ความรักหรือหึงหวงก็ตาม และท้ายที่สุดปัญหาก็ถูกคลี่คลายลง นางเอกหลบหนีพระเอก จะด้วยทั้งรักทั้งแค้นหรือแม้แต่จะมีบุตรด้วยกัน แต่ก็ปรับความเข้าใจกันได้ และได้อยู่ด้วยกันหรือแต่งงานกันครองรักกันอย่างมีความสุข แต่ความจริงของศีลธรรม พระเอกคนนั้นได้ล่วงละเมิดหญิงที่อยู่ในความปกครองของผู้อื่นแล้ว และจักได้รับผลกรรมนั้นแน่นอน โดยมีนรกเป็นผลแห่งกรรมนั้น ถึงแม้จะสร้างบุญกุศลมากมายมหาศาลก็มิอาจปิดประตูนรกได้ จนกว่าจะสำเร็จอริยะบุคคลเสียก่อน จึงจะปิดประตูนรกได้เด็ดขาด เมื่อไปเสวยผลบุญที่สร้างไว้จนหมดแล้ว ก็ต้องมารับกรรมในนรกอยู่ดี
ปัญหาสังคมที่เกิดขึ้น เพราะพ่อแม่ส่วนใหญ่ไม่รู้ธรรมข้อนี้ จึงไม่รู้จักสอนลูกหลาน โดยเบื้องต้นพ่อแม่ต้องสอนลูกให้ละอายและเกรงกลัวต่อบาปเสียก่อน พรรณนาเรื่องของนรกสวรรค์ ทำกรรมชั่วต้องตกนรกและรับกรรมอย่างทรมานแสนสาหัส ต้องพูดซ้ำๆ พูดบ่อยๆ เพื่อให้ซึมเข้าไปในจิต เมื่อลูกจะทำอะไรที่ผิดศีลธรรม จิตที่ถูกอบรมว่าเป็นบาปต้องตกนรก จะได้มีความเกรงกลัวต่อผลกรรมนั้นๆ
วัยรุ่นมีความรักใคร่กันได้เสียกันขณะที่เรียนอยู่ จนเกิดปัญหาตั้งครรภ์โดยไม่พึงประสงค์หรือท้องในวัยเรียนและปัญหาต่างๆก็ตามมา แม้แต่ผู้ที่บรรลุนิติภาวะมีการงานทำแล้วก็เช่นกัน ได้เสียกันก่อนโดยผู้ใหญ่มิได้รับรู้ อย่างนั้นเขาเรียกว่าลักลอบได้กัน ย่อมผิดศีลกาเม มีแดนนรกที่จะต้องได้ไป
แม้ความจริงที่ปรากฏว่าท้องก่อนแต่งของดาราและของเยาวชนทั้งหลาย ผลกรรมนั้นย่อมได้รับอย่างแน่นอน ผู้ชายได้ล่วงละเมิดหญิงอยู่ในความปกครองของผู้อื่นเป็นการลักลอบได้เสียกัน ชายผู้นั้นจักมีนรกเป็นแดนเกิด หญิงจะต้องรับกรรมด้วยหรือไม่ขึ้นอยู่ที่ หญิงนั้นถูกล่อลวงด้วยอุบายใดๆหรือไม่ โดยเจ้าตัวมิได้สมัครใจ หญิงนั้นไม่ขึ้นชื่อว่าทำผิดศีลข้อกาเม แต่เป็นผลของวิบากกรรมแต่อดีตชาติ จึงทำให้ต้องเสียตัว เสียใจ เสียชื่อเสียง แต่ถ้าหญิงนั้นมีความยินยอมและเต็มใจยอมให้ชายนั้นล่วงละเมิดทางเพศ ขึ้นชื่อว่าได้กระทำกรรมนั้นแล้ว
เมื่อลักลอบได้เสียกันแล้ว ทำให้พ่อแม่ญาติพี่น้องทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง มีความเสียใจ โดยเฉพาะญาติฝ่ายหญิงมีความโศกเศร้า มีความคับแค้นใจที่เรื่องน่าละอายเกิดกับลูกสาวของตัวเอง พ่อแม่เลี้ยงลูกมาด้วยความลำบาก ต้องการให้ลูกมีครอบครัวอย่างถูกต้อง ภาคภูมิใจ คือมีการตกแต่งตามประเพณี เพื่อให้สังคมรับรู้ แต่กลับทำให้วงศ์ตระกูลต้องเสียชื่อเสียง ชายนั้นได้กระทำกรรมกับญาติของฝ่ายหญิงแล้ว
ถ้าเป็นสิ่งของที่ทุกคนรักและหวงแหน แต่มีผู้หนึ่งผู้ใดไปทำลายให้เสียหาย บิ่นแตกหัก มีสภาพเปลี่ยนไปจากเดิม ทุกคนก็มีความเสียใจ แล้วแต่ว่ารักชอบมากแค่ไหน แต่นี่เป็นลูก ญาติพี่น้องย่อมมีความรักและหวงแหนมากกว่า เป็นแก้วตาดวงใจของพ่อแม่ ซึ่งเทียบกันไม่ได้เลย ฉะนั้นการได้เสียกันโดยพ่อแม่และญาติมิได้รับรู้ก็เท่ากับผิดศีลกาเม
ผู้ปกครองไม่ควรส่งเสริมลูกให้กระทำผิดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อย่าแนะนำลูกชายเพียงแต่ว่าเวลามีเพศสัมพันธ์ควรจะป้องกันอย่างไรเท่านั้น ควรจะบอกโทษของการทำผิดศีลข้อกาเม อธิบายความให้เข้าใจ ผู้หญิงจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม ถ้าได้ล่วงละเมิดทางเพศแล้ว ขึ้นชื่อว่าทำผิดศีลข้อกาเมนี้ ทางโลกกับทางธรรมจะต่างกัน หญิงใดบรรลุนิติภาวะแล้วและมีความสัมพันธ์ทางเพศกับชายโดยความสมัครใจ กฎหมายไม่ถือว่าเป็นการล่อลวงหรืออนาจารใดๆ เพราะหญิงนั้นบรรลุนิติภาวะแล้ว แต่ทางธรรมไม่ใช่ ไม่ว่าหญิงนั้นจะอายุเท่าไหร่ก็ตามแต่ยังมีผู้ปกครองดูแลอยู่ ชายหญิงมีเพศสัมพันธ์กันชื่อว่าลักลอบได้เสียกันโดยผู้ปกครองไม่ได้รับรู้ เป็นผู้ทำผิดศีลข้อกาเมนี้
หญิงเองก็ไม่ควรปล่อยเนื้อปล่อยตัวโดยคิดว่าตัวเองไม่ได้ทำความเดือดร้อนให้ใคร มีงานทำแล้วบ้าง บรรลุนิติภาวะแล้วก็มี รับผิดชอบตัวเองได้แล้ว แต่การกระทำนั้นต้องทำให้พ่อแม่ญาติพี่น้องต้องเสียใจ เสียชื่อเสียง หญิงนั้นได้กระทำกรรมกับพ่อแม่ไว้แล้วโดยความหลงผิด ซึ่งในเวลานี้สังคมส่วนใหญ่มีความคิดผิดเช่นนี้ และมีการอยู่ก่อนแต่งทำเลียนแบบต่างชาติเขา น่าสงสารคนเหล่านี้ที่ไม่เข้าใจหลักธรรมข้อนี้อย่างกระต่างแจ้ง
ละครทีวีส่วนใหญ่ จะเห็นกิเลสแต่ละคนมากบ้างน้อยบ้าง ตามจินตนาการของผู้แต่งซึ่งยังเป็นปุถุชนอยู่ บางเรื่องพระเอกนางเอกทำเรื่องผิดศีลธรรมอย่างไม่ให้น่าอภัย แต่ก็ได้รับการยกย่องจากผู้ชมด้วยความหลงผิด ทำให้มีการเลียนแบบและทำตาม
ผู้ปกครองควรใส่ใจให้มากและแนะนำทางที่ถูกต้องให้ จะได้ไม่หลงผิดตามกระแสนิยม ปัญหาการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรก็จะลดลง
เมื่อกล่าวถึงดาราที่ว่าเป็นคนของสังคม ทำให้ผู้คนเลียนแบบทั้งดีและไม่ดี ซึ่งดาราเองก็ตกอยู่ในบ่วงแห่งกรรมนั้นอยู่แล้ว บางคนยังทำกรรมซ้ำซากลงไปอีก จะโดยเจตนาก็ดีหรือไม่เจตนาก็ดี ด้วยความหลงผิดทำตามกันมาก็มี
ชายหญิงแต่งงานกันแล้วถือว่าเป็นคนๆเดียวกัน เปรียบเทียบกับการจดทะเบียนเป็นหุ้นส่วนกันแล้ว มีการมอบหมายหน้าที่แต่ละคนรับผิดชอบ จะจ้างใครมาช่วยงานบ้าง เมื่อตกลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รายได้ที่เข้ามา ภรรยาคือฝ่ายบัญชีผู้ดูแล สามีเป็นผู้บริหารเป็นพนักงานขายคนเดียวหรือกับภรรยาด้วยแล้วแต่กรณี โดยสามีเอาความสามารถไม่ว่าทางร่างกายหรือสมองไปทำงานเพื่อให้ได้เงินมา เมื่อเป็นดังนี้แล้วรายได้ทั้งหมดก็ต้องนำเข้าห้างหุ้นส่วน และจัดแบ่งสรรกันตามที่ตกลงกันไว้ ถ้าผู้หนึ่งผู้ใดนำรายได้เข้าห้างหุ้นส่วนไม่ครบก็เป็นการยักยอก แต่ในทางครอบครัวเงินที่ได้มาไม่ครบหรือส่วนที่เกินจะโบนัสหรือเงินล่วงเวลาก็ตาม ถ้านำไปใช้เพื่อประโยชน์และความสุขของครอบครัวก็ไม่เป็นไร แต่ถ้านำไปใช้เพื่อผู้หญิงหรือชายอื่นที่ไม่ใช่ญาติ ที่ไม่เป็นเพื่อการกุศลก็เท่ากับทำผิดกับครอบครัว ลองพิจารณาดูให้ดีถ้าใครในครอบครัวรู้ว่าเงินที่สมควรจะเป็นของครอบครัวแต่ถูกใช้ไม่ถูกหลักธรรม เช่นสามีเอาเงินไปให้เมียน้อยใช้ ทั้งลูกและภรรยาก็ต้องเสียใจ หลักง่ายๆอยู่ แต่ส่วนใหญ่จะคิดว่าเราเป็นผู้หาเงินมาได้จะทำอะไรก็ได้ คิดเข้าข้างตัวเองทั้งนั้น
เมื่อเป็นครอบครัวแล้วก็ต้องทำให้ทุกคนมีความสุข ไม่ใช่ไปหาผลประโยชน์คือความสุขนอกบ้านคนเดียว ปล่อยให้ครอบครัวมีแต่ทุกข์
นั่นแหละความโลภที่อยากไม่รู้จักพอ แล้วเอามาเป็นข้ออ้างต่างๆนานา
ผู้ชายอย่าได้มองผู้หญิงว่าเป็นผู้ที่ด้อยกว่าทั้งความคิด การทำงาน ความรับผิดชอบ หรือแม้แต่เป็นที่รองรับอารมณ์
ความจริงแท้ ทุกคนก็เคยเกิดเป็นทั้งผู้หญิงและผู้ชายกันมาแล้ว แม้แต่สัตว์เล็กสัตว์ใหญ่ก็ไม่มีเว้น ไม่ควรจะไปยึดมั่นถือมั่นว่าเป็นเราเป็นเขา
ผู้ชายประสบความสำเร็จเพราะผู้หญิงก็มีอยู่มากมาย ตัวอย่างก็มีให้เห็นที่ลงในหนังสือต่างๆ แต่จะนำเรื่องของการบรรลุธรรมซึ่งเป็นเรื่องของนางวิสาขาสำเร็จโสดาบันเมื่อตอนอายุได้ ๗ ขวบ หลังแต่งงานแล้วช่วยให้พ่อสามีบรรลุธรรม
นางวิสาขา เกิดในตระกูลเศรษฐีในเมืองภัททิยะ บิดาชื่อธนญชัย มารดาชื่อสุมนาเทวี ขณะที่เธอมีอายุได้ ๗ ขวบ เมณฑกเศรษฐีซึ่งเป็นปู่ของนางวิสาขา ได้ทราบข่าวว่า พระบรมศาสดาพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์จำนวนมากกำลังเสด็จมาสู่เมืองภัททิยะ จึงได้มอบหมายให้เด็กหญิงวิสาขาพร้อมด้วยบริวาร ออกไปทำการรับเสด็จที่นอกเมือง ขณะที่พระพุทธองค์ประทับพักผ่อนพระอิริยาบถอยู่นั้น เด็กหญิงวิสาขาพร้อมด้วยบริวาร เข้าไปเฝ้ากราบถวายบังคมแล้วนั่ง ณ ที่อันสมควรแก่ตน พระพุทธองค์ทรงแสดงพระธรรมเทศนาให้พวกเธอฟัง เมื่อจบลงก็ได้บรรลุเป็นพระโสดาบันด้วยกันทั้งหมด
เหตุที่นางวิสาขาเป็นหญิงงามเบญจกัลยานี นางได้แต่งงานกับปุณณวัฒนกุมาร บุตรชายของมิคารเศรษฐี แห่งเมืองสาวัตตี
ธนญชัยเศรษฐี ได้สั่งช่างทองทำเครื่องประดับชื่อ มหาลดาปสาธน์ เพื่อมอบให้ลูกสาว ซึ่งเครื่องประดับนี้เป็นชุดยาวติดต่อกันตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ประกอบด้วย เงินทองและรัตนะอันมีค่าถึง ๙ โกฏิกหาปณะ ค่าแรงช่างอีก ๑ แสน เป็นเครื่องประดับที่มีน้ำหนักมาก หญิงอื่นไม่สามารถจะประดับได้ เนื่องจากนางวิสาขามีคุณสมบัติพิเศษ นอกจากเป็นผู้หญิงที่มีวัยงามแล้ว นางยังมีกำลังมากเท่ากับช้าง ๕ เชือกรวมกัน ซึ่งพระราชาก็เคยทดสอบนางแล้ว
ธนญชัยเศรษฐียังได้มอบทรัพย์สินเงินทอง ข้าทาสบริวารและฝูงโคอีกจำนวนมาก อีกทั้งกุฎุมพีผู้มีความชำนาญพิเศษต่างๆ ไปเป็นที่ปรึกษาดูแลประจำตัวอีก ๘ นาย
เมื่อนางวิสาขาเข้ามาสู่ตระกูลของสามีแล้ว เพราะความที่เป็นผู้ได้รับการอบรมสั่งสอนมาเป็นอย่างดี และเป็นผู้มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด มีน้ำใจ เจรจาไพเราะ ให้ความเคารพผู้ที่มีวัยสูงกว่าตน จึงเป็นที่รักใคร่ชอบใจของคนทั้งหลาย ยกเว้นมิคารเศรษฐีบิดาของสามี ซึ่งมีจิตศรัทธาฝักใฝ่ในนักบวชอเจลกชีเปลือย โดยให้ความนับถือว่าเป็นพระอรหันต์ และนิมนต์ให้มาบริโภคโภชนาหารที่บ้านของตน แล้วสั่งให้คนไปตามนางวิสาขามาไหว้พระอรหันต์และให้มาช่วยจัดเลี้ยงอาหารแก่อเจลกชีเปลือยเหล่านั้น
นางวิสาขา ผู้เป็นพระอริยะสาวิกาชั้นโสดาบันพอได้ยินคำว่าอรหันต์ ก็รู้สึกปิติยินดี จึงรีบมายังเรือนของมิคารเศรษฐี ครั้นเห็นอเจลกชีเปลือยแล้วก็ตกใจ จึงกล่าวว่า “ผู้ไม่มีความละอายเหล่านี้จะเป็นพระอรหันต์ไม่ได้” พร้อมทั้งกล่าวติเตียนมิคารเศรษฐีแล้วกลับไปที่อยู่ของตน
อีกวันหนึ่งต่อมา ขณะที่มิคารเศรษฐีกำลังบริโภคอาหารอยู่ โดยมีนางวิสาขาคอยปรนนิบัติอยู่ใกล้ๆ ได้มีพระเถระเที่ยวบิณฑบาตผ่านมาหยุดยืนที่หน้าบ้านของมิคารเศรษฐี นางวิสาขาทราบดีว่าเศรษฐีแม้จะเห็นพระเถระแล้วก็ทำเป็นไม่เห็น นางจึงกล่าวกับพระเถระว่า “นิมนต์พระคุณเจ้าไปข้างหน้าก่อนเถิด ท่านเศรษฐีกำลังบริโภคของเก่าอยู่”
เศรษฐีได้ฟังดังนั้นแล้วจึงโกรธเป็นที่สุด หยุดบริโภคอาหารทันทีแล้วสั่งให้บริวารมาจับและขับไล่นางวิสาขาให้ออกจากบ้านไป แต่ไม่มีใครกล้าเข้ามาจับ นางวิสาขาขอชี้แจงแก่กุฎุมพี ๘ นายที่พ่อของนางได้ส่งมาช่วยดูแลนางก่อน และเมื่อมิคารเศรษฐีให้คนไปเชิญกุฎุมพีมาแล้วแจ้งโทษของนางวิสาขาให้ฟัง ซึ่งนางก็แก้ด้วยคำว่า “ที่ดิฉันกล่าวอย่างนั้น หมายถึง มิคารเศรษฐีบิดาของสามีกำลังบริโภคบุญเก่าอยู่ มิใช่บริโภคของบูดเน่าอย่างที่เข้าใจ” กุฎุมพีทั้ง ๘ จึงกล่าวกับเศรษฐีว่า เรื่องนี้นางวิสาขาไม่มีความผิด
เมื่อมิคารเศรษฐีฟังคำชี้แจงของลูกสะใภ้แล้วก็หายโกรธ และกล่าวขอโทษนาง พร้อมทั้งอนุญาตให้นางนิมนต์พระบรมศาสดาพร้อมภิกษุสงฆ์มารับอาหารบิณฑบาตในเรือนของตน
ขณะที่นางวิสาขาจัดถวายภัตตาหารแด่พระบรมศาสดาและภิกษุสงฆ์อยู่นั้น ก็ได้ให้คนไปเชิญมิคารเศรษฐีมาร่วมถวายภัตตาหารด้วย แต่เศรษฐีมาแล้วไม่กล้าที่จะออกไปสู่ที่เฉพาะพระพักตร์พระศาสดา เพราะไม่มีศรัทธาเลื่อมใส จึงแอบนิ่งอยู่หลังม่าน
เมื่อเสร็จภัตตากิจแล้ว พระบรมศาสดาทรงแสดงพระธรรมเทศนา ส่วนมิคารเศรษฐีแม้จะหลบอยู่หลังม่านแต่ก็เหมือนกับได้ฟังธรรมอยู่ต่อหน้าพระพักตร์พระพุทธเจ้า และก็ได้สำเร็จเป็นพระโสดาบันบุคคลในพุทธศาสนา เป็นสัมมาทิฐิบุคคลตั้งแต่นั้นมา
ทันใดนั้นมิคารเศรษฐีก็ได้ออกจากหลังม่านแล้วตรงเข้าไปหานางวิสาขา และประกาศให้คนทั้งหลายได้ยินทั่วกัน “ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ขอเธอจงเป็นมารดาของข้าพเจ้าเถิด” และตั้งแต่นั้นมานางวิสาขาก็ได้นามว่า “มิคารมารดา” จะเห็นได้ว่า มิคารเศรษฐี ได้ทำการยกย่องนางวิสาขาเยี่ยงมารดาของตนเป็นสัมมาทิฐิ จนได้บรรลุโสดาบัน นางวิสาขาได้ทำคุณอันยิ่งใหญ่ให้แก่มิคารเศรษฐีพ้นจากนรกและพร้อมกับปิดประตูนรกได้เด็ดขาด
นางวิสาขาควรแก่การยกย่องสรรเสริญ ในปัจจุบันจะมีผู้ชายสักกี่คนที่ยกย่องเคารพและศรัทธาต่อผู้หญิงอย่างจริงใจ มิคารเศรษฐีกระทำได้และเป็นการกระทำได้ยากอย่างยิ่ง เพราะมิคารเศรษฐีได้สำเร็จโสดาบันจึงตัดสักกายะทิฐิ ความยึดมั่นถือมั่นในตัวตนและหมดความลังเลสงสัยในพระพุทธเจ้าลงได้ และศรัทธาต่อนางวิสาขาที่สำเร็จโสดาบันมาก่อนตนนางรุจา
เรื่องของนางรุจา
ที่เคยทำผิดศีลกาเมฯที่มีอยู่ในเรื่องนารทพรหม ( พระเจ้าสิบชาติ ) เนื่องด้วยพระเจ้าอังคติกำลังอยู่ในมิจฉาทิฐิ เพราะเชื่อถ้อยคำของชีวกชีเปลือยว่า บาปบุญไม่มี โลกหน้าไม่มี ปู่ ย่า ตา ยาย มารดา บิดา ไม่มี ตายแล้วก็สูญไป ไม่มีบาปมีบุญอันใดที่จะตกแต่งให้ชั่วให้ดีได้ และอาลาตเสนาบดีก็กล่าวเสริมว่า เมื่อชาติก่อนตัวเองได้เคยฆ่าสัตว์มากมาย แต่เวลาตายแล้วได้เกิดเป็นเสนาบดีมีทรัพย์ถึงเพียงนี้ เพราะเขาระลึกชาติได้เพียงชาติเดียวเท่านั้น เมื่อชาติก่อนที่เขาจะเกิดเป็นคนฆ่าสัตว์ขายนั้น เขาได้บูชาพระเจดีย์พระกัสสปพุทธเจ้า ด้วยพวงดอกอังกาบแต่ว่าบุญยังไม่ได้ส่งผล ส่วนบาปอย่างอื่นที่เขาทำไว้ในชาติก่อนโน้นอีกมีอยู่ บาปนั้นให้ผลก่อนจึงได้มาเกิดเป็นคนฆ่าสัตว์ขาย ภายหลังบุญนั้นได้ให้ผลจึงมาเกิดเป็นเสนาบดี
ในเวลานั้น มีชายเข็ญใจคนหนึ่งได้มานั่งฟังการสนทนาธรรมอยู่ในนั้น ได้กราบทูลต่อพระเจ้าอังคติว่า เมื่อชาติก่อนข้าพระองค์ได้เกิดเป็นเศรษฐีและตั้งใจให้ทานรักษาศีลภาวนา ถึงในชาตินี้ก็ยังตั้งใจให้ทานรักษาศีล ด้วยยังเชื่อว่าบาปมี บุญมี แต่พอฟังคำของชีวกชีเปลือย จึงเข้าใจว่า บาปบุญไม่มี เพราะถ้าบุญมีจริง ข้าพระองค์ก็ต้องได้เกิดเป็นเศรษฐีอีก
การที่ชายเข็ญใจกราบทูลอย่างนั้น เพราะเขานึกไม่ได้ถึงชาติที่เขาเกิดเป็นคนเลี้ยงวัว ได้ด่าพระภิกษุผู้หลงทางด้วยถ้อยคำหยาบช้า ในชาติก่อนที่เขาเกิดมาเป็นเศรษฐี แต่ว่าบาปที่ด่าพระไว้นั้นยังไม่ได้ให้ผล และผลบุญที่เขาทำไว้ก่อนชาติที่ด่าพระนั้นให้ผลก่อน เขาจึงมาเกิดเป็นเศรษฐี เมื่อเขาตายจากชาติที่เป็นเศรษฐีแล้ว บาปที่ด่าพระนั้นจึงส่งผลให้เขามาเกิดเป็นลูกทาสีตกยาก
ด้วยเหตุที่บุคคลทั้งสามได้กล่าวอย่างนั้น จึงทำให้พระเจ้าอังคติตกอยู่ในมิจฉาทิฐิ และทำให้นางรุจาราชธิดาต้องมากล่าวเตือนราชบิดา อย่าไปเชื่อถือถ้อยคำของบุคคลทั้งสาม เพราะหม่อมฉันระลึกชาติหนหลังได้ ๑๒ ชาติ รู้แจ้งบาปบุญดีกว่าคนทั้งสามนั้น คือชาติที่ ๑ หม่อมฉันเกิดเป็นบุตรช่างทอง ชาติที่ ๒ เกิดเป็นบุตรเศรษฐี ชาติที่ ๓ ตกนรก ชาติที่ ๔นั้นเป็นลา ชาติที่ ๕ เป็นวานร ชาติที่ ๖ เป็นโค ชาติที่ ๗ เป็นกะเทย ชาติที่ ๘-๙-๑๐ เกิดเป็นนางสนมของพระอินทร์อยู่ ๓ ชาติ ชาติที่ ๑๑-๑๒ เกิดเป็นภรรยาของเทพบุตรอยู่ ๒ ชาติ ส่วนชาตินี้เราเกิดเป็นจุรา เมื่อตายจากชาตินี้แล้วจะได้เกิดเป็นเทพบุตรในสวรรค์รวมเป็น ๑๔ ชาติ นางรุจาได้เล่าเรื่องต่อไปว่า ชาติที่เกิดเป็นบุตรช่างทองนั้นได้กระทำชู้กับภรรยาผู้อื่นไว้มาก แต่ว่าบาปยังไม่ให้ผล บุญที่ทำไว้ก่อนชาตินั้นได้ให้ผล ทำให้เกิดเป็นบุตรเศรษฐีได้ให้ทานรักษาศีลไว้มาก พอตายจากชาติเศรษฐี บาปที่เป็นชู้กับภรรยาผู้อื่นในชาติที่เป็นบุตรช่างทองนั้นได้มาเกิดเป็นลาและถูกเขาตอน ตายจากลาแล้วได้มาเกิดเป็นวานรแล้ววานรนายฝูงตัดองค์กำเนิดเสีย ตายจากวานรแล้วมาเกิดเป็นโคและถูกเขาตอนอีก ตายจากโคมาเกิดเป็นคนกะเทยอยู่ในตระกูลมั่งมี ตายจากกะเทยได้ขึ้นไปเกิดเป็นนางสนมของพระอินทร์อยู่ ๓ชาติ จึงได้เกิดเป็นรุจาในชาตินี้ ตายจากชาตินี้จักได้เกิดเป็นเทพบุตรอยู่ในสวรรค์ ด้วยบุญที่ได้ทำไว้ครั้งเป็นเศรษฐีตอนโน้น
เมื่อเล่าจบ พระเจ้าอังคติก็ยังไม่ทรงเชื่อ นางรุจาจึงลุกขึ้นยกหัตถ์ประณมน้อมในทิศทั้ง ๑๐ แล้วกล่าวบอกต่อผู้มีศีลธรรมอันดีหรือเทพเจ้าอินทร์พรหมทั้งหลายให้มาช่วยพระบิดาให้ละมิจฉาทิฐิเสียในครั้งนี้ ด้วยอำนาจบุญบารมีที่ข้าพเจ้าได้สะสมมา
ในคราวนั้น นารทพรหมผู้อยู่ในพรหมโลกได้ยินถ้อยคำของนางรุจาด้วยหูทิพย์ จึงหายวับลงมาจากพรหมโลก เพื่อมาละมิจฉาทิฐิของพระเจ้าอังคติ
โดยนารทพรหมที่แปลงเป็นฤๅษีบอกว่า บาปบุญมี บิดามารดามี โลกหน้ามีจริง พระเจ้าอังคติจึงว่า อย่างนั้นให้ข้าพเจ้าขอยืมเงินสัก ๕๐๐ เถิด แล้วชาติหน้าจะใช้คืนให้ ๑,๐๐๐ นารถฤๅษีตอบว่า ถ้าพระองค์มีศีลธรรมดี และตายแล้วจักได้ไปสวรรค์ อาตมาก็ยินดีให้ยืม แต่พระองค์ไม่มีศีลธรรมและตายแล้วก็ต้องตกนรกใครจะให้พระองค์ยืมได้ อย่าว่าแต่โลกหน้าเลย เพียงโลกนี้ก็ไม่มีใครยินดีให้ คนไม่มีศีลธรรมกู้ยืมเพราะกู้ไปแล้วก็จะทวงคืนไม่ได้
ในลำดับนั้น นารถฤๅษีจึงทรงยกเอาเรื่องนรกขึ้นแสดงถวาย จนพระเจ้าอังคติสะดุ้งกลัวแล้ว จึงยกเอาเรื่องสวรรค์ขึ้นมาแสดงเป็นชั้นๆจนพระเจ้าอังคติละมิจฉาทิฐิได้
รายละเอียดให้ไปหาอ่านได้ในเรื่องพระเจ้าสิบชาติ ที่ยกเรื่องของนางรุจามาบอกกล่าว เพื่อจะแสดงให้เห็นโทษของการทำผิดศีลข้อกาเม กรรมบางอย่างยังไม่ส่งผลทันที กรรมบางอย่างข้ามภพข้ามชาติ เมื่อผลบาปส่งผลให้มาเกิดเป็นสัตว์ก็ยังถูกเขาตอน เป็นคนก็เป็นกะเทย ไปเป็นนางฟ้าก็เป็นนางบำเรอของเทวดา เพราะไม่มีวิมานเป็นของตัวเอง เทวดาหญิงชายทั้งหลายมีการบริโภคกามคุณเหมือนกัน แต่ลักษณะเป็นทิพย์ เทวดาที่บริโภคกามคุณมากและไม่ยอมบริโภคอาหารที่เป็นทิพย์เหมือนกัน ก็จะทำให้เทวดาผู้นั้นหมดอายุขัยก่อนเวลาอันควรก็มี ให้ดูที่นางรุจาบอกว่าถ้าตายจากชาตินี้ก็ไปเกิดอยู่บนสวรรค์ ด้วยบุญที่ทำไว้ครั้งที่เป็นเศรษฐี นับได้ถึง ๘ ชาติกว่าบุญนั้นจะส่งผล
ต่อมาอลาตเสนาบดีได้มาเกิดเป็นพระเทวทัต คุณาชีวกได้มาเกิดเป็นอเจลกชีเปลือย พระนางรุจาได้มาเกิดเป็นพระอานนท์ พระเจ้าอังคติได้มาเกิดเป็นพระอุรุเวลกัสสป ส่วนนารทพรหมได้มาเกิดเป็นพระพุทธเจ้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น